ในสตรีมของผู้พัฒนา Destiny 2 ทาง Bungie ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับวันที่เริ่มต้นการแข่งขัน Raid “The Edge of Fate” ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงในประสบการณ์การแข่งขัน Raid แบบดั้งเดิมที่ผู้เล่นคุ้นเคย
ในหลายๆ ภาคเสริมที่ผ่านมา ผู้พิทักษ์จะมีเวลา 48 ชั่วโมงในการทำ Raid ให้สำเร็จในโหมดการแข่งขัน โหมดนี้จะเปิดให้เล่นทันทีหลังจากที่ Raid เปิดตัว โดยมีความยากที่เพิ่มขึ้น เช่น การลดความเสียหายที่ทำได้, การเพิ่มพลังชีวิตของศัตรู และต้องอาศัยการสื่อสารและกลยุทธ์ทีมที่สมบูรณ์แบบ การแข่งขันเหล่านี้มักจะเริ่มในวันศุกร์หลังจากที่ภาคเสริมเปิดตัว แต่ครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลง
การแข่งขัน Raid “The Edge of Fate” จะเริ่มในวันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม
คาดว่าการแข่งขันจะเริ่มในเวลาที่รีเซ็ตประจำวัน แต่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ
นอกจากนี้ หลังจากที่ Raid เปิดตัวไปแล้วไม่กี่สัปดาห์ จะมีเวอร์ชันใหม่ของ Raid นี้ที่เรียกว่า “เวอร์ชันมหากาพย์” ซึ่งจะขยายเนื้อเรื่องและเพิ่มเนื้อหาใหม่ๆ Bungie เน้นย้ำว่าเวอร์ชันพื้นฐานของ Raid ไม่ได้เก็บเนื้อหาไว้เพื่อเวอร์ชันมหากาพย์ แต่เวอร์ชันมหากาพย์จะเป็นการ “เสริม” ประสบการณ์ Raid
สำหรับผู้เล่นที่ต้องการเตรียมตัวให้พร้อมในช่วงสั้นๆ ระหว่างการเปิดตัวภาคเสริมและการเริ่มต้นการแข่งขัน Raid Bungie แนะนำให้ทำเนื้อเรื่องหลักในระดับความยากตำนานให้เสร็จสิ้นเพื่อให้ได้ระดับพลังที่แนะนำ
ผู้พิทักษ์ยังสามารถเพิ่มความพร้อมได้ด้วยการหาอุปกรณ์ที่มีพลังสูงขึ้น ซึ่งมีโอกาสดรอปจากกิจกรรมที่มีความยากสูงกว่า และด้วยอาวุธ Exotic ใหม่ ชุดเกราะ และตัวปรับแต่งที่เพิ่มเข้ามา การแข่งขัน Raid ครั้งนี้จึงน่าจับตามองอย่างยิ่ง