The Outer Worlds 2 จะพาผู้เล่นไปยังโลกอาณานิคมที่ห่างไกลชื่อ Arcadi ซึ่งผู้เล่นสามารถใช้ปืนหลากหลายแบบเพื่อแก้ไขสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างสนุกสนาน ตามคำบอกเล่าของผู้กำกับเกม Brandon Adler ทีมงาน Obsidian Entertainment ตระหนักดีว่าเกมภาคต่อจำเป็นต้องมีการพัฒนาอย่างมากเมื่อเทียบกับภาคแรก เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ ทีมงานจึงขอคำแนะนำจากผู้พัฒนาเกม Halo
“เราได้พูดคุยกับทีมงาน Halo” Adler กล่าวกับ The Guardian “พวกเขาให้คำแนะนำมากมายเกี่ยวกับการตั้งเป้าหมายและการเพิ่มฟีเจอร์ในอาวุธ” นอกจากนี้ Adler ยังกล่าวว่า Obsidian ได้วิเคราะห์เกม Destiny อย่างละเอียดเพราะชื่นชอบความรู้สึกของการยิงในเกมนั้น
ในภาคต่อ ผู้เล่นจะไม่พบกับหน้าจอโหลดเมื่อเข้าสู่ตัวอาคารเหมือนภาคก่อน และอาวุธได้รับการปรับปรุงใหม่ด้วยตัวเลือกและฟีเจอร์ที่สามารถปรับแต่งได้
“เราไม่ได้ต้องการแค่การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย” Adler กล่าวต่อ “อาวุธแต่ละชิ้นมีความแตกต่างและมีจุดประสงค์เฉพาะตัวที่น่าสนใจ คุณยังสามารถเพิ่มม็อดเพื่อสร้างเอฟเฟกต์สุดพิเศษได้อีกด้วย”
อีกหนึ่งฟีเจอร์ใหม่คือผู้เล่นสามารถสลับมุมมองจากบุคคลที่หนึ่งเป็นบุคคลที่สามได้ตามต้องการ และเลือกวิธีการเล่นที่ชอบ The Outer Worlds 2 ยังเป็นเกมแรกที่มีราคาขาย $80 บน Xbox Series X|S โดย Adler เคยกล่าวว่า Obsidian ไม่ได้ตั้งราคานี้ และแนะนำให้ผู้เล่นติดต่อ Microsoft หากมีปัญหา
The Outer Worlds 2 จะวางจำหน่ายบน Xbox Series X|S, PS5 และ PC ในวันที่ 29 ตุลาคม
รายละเอียดเวอร์ชันเกม:
– Standard Edition ราคา $80 รวมเกมหลักและโบนัส Commander Zane’s Anti-Monopolistic Battle Pack สำหรับผู้สั่งซื้อล่วงหน้า
– Premium Edition ราคา $100 รวมเกมหลัก, Season Pass สำหรับ DLC เรื่องราวหลังเปิดตัว 2 ชุด, ชุดรางวัลพรีเมียม Moon Man’s Corporate Appreciation, หนังสือศิลปะดิจิทัล, เพลงประกอบดิจิทัล และสิทธิ์เข้าเล่นเกมล่วงหน้า 5 วัน
การสั่งซื้อล่วงหน้าทางกายภาพสำหรับ PS5 และ Xbox Series X มีจำหน่ายที่ Best Buy โดยเวอร์ชัน Xbox เป็นโค้ดในกล่อง ไม่ใช่แผ่นดิสก์
The Outer Worlds 2 มุ่งมั่นที่จะเป็นเกม RPG ที่ดียิ่งขึ้นในทุกด้าน พร้อมมอบประสบการณ์ใหม่ที่น่าตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ เกมทั่วโลก